ต่อไปนี้คือ ชีวประวัติฉบับครบถ้วนของ หลวงพ่อเดิม พุทธสโร (พระครูนิวาสธรรมขันธ์) แห่งวัดหนองโพ จังหวัดนครสวรรค์:
👶 กำเนิดและครอบครัว
เกิดเมื่อ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2403 (วันพุธ แรม 11 ค่ำ เดือน 3 ปีวอก) ในสกุล “ภู่มณี” ณ บ้านหนองโพ อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์
บิดาชื่อ “เนียม” มารดาชื่อ “ภู่” มีพี่น้องทั้งสิ้นหกคนรวมท่าน
ช่วงเยาว์วัยฝากฝังไว้ที่วัดหนองโพเพื่อศึกษาธรรมะ สามารถสอนอักษรไทย–ขอม และมีความสนิทสนมกับสัตว์ โดยเฉพาะนกเขา
🛕 อุปสมบทและฉายา
บวชเมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2423 ณ พัทธสีมาวัดเขาแก้ว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
ได้รับฉายาทางธรรมว่า “พุทธสโร” (“ลูกแห่งพระพุทธเจ้า”)
📚 การศึกษาและวิชาพุทธาคม
ศึกษาพระธรรมวินัยและปริยัติธรรมในวัดหนองโพ พร้อมเรียนวิชากับ นายพันธ์ ชูพันธ์ และต่อมาคือ หลวงพ่อมี วัดบ้านบน เจริญวิปัสสนากับ หลวงพ่อเงิน วัดพระปรางเหลือง
อุทิศตนในการศึกษาพุทธาคมกว่า 12 ปี จนเชี่ยวชาญและได้รับความเคารพอย่างสูง
🏅 การดำรงตำแหน่งและการพัฒนาวัด
ดำรงตำแหน่ง พระครูนิวาสธรรมขันธ์ และ รองเจ้าคณะแขวงเมืองนครสวรรค์ เมื่อ พ.ศ. 2457
ต่อมาเป็น พระอุปัชฌาย์ ใน พ.ศ. 2462 และยังคงปฏิบัติหน้าที่ด้านศาสนกิจต่อเนื่อง
พัฒนาวัดหนองโพอย่างเข้มแข็ง สร้างกุฏิ พระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ เจดีย์ และกำแพงแก้ว
วัตถุมงคล
ท่านเป็นที่เลื่องลือด้าน พุทธาคม คงกระพัน แคล้วคลาด เป็น “เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว”
สร้างวัตถุมงคลมากมาย เช่น มีดหมอ แหวนเงิน ตะกรุด ผ้ายันต์ และเหรียญรุ่นต่าง ๆ ที่ศิษย์นิยมใช้กันแพร่หลาย
เรื่องเล่า “น้ำอาบศพศักดิ์สิทธิ์” ซึ่งช่วยให้ผู้ดื่มปลอดภัยจากภัยใดๆ ก็มีปรากฏในตำนานของท่าน
🕊 มรณภาพ
ละสังขารด้วยอาการสงบเมื่อ วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 สิริอายุ 91 ปี 70 พรรษา
✨ มรดกแห่งศรัทธา
ปัจจุบันวัดหนองโพเป็นศูนย์รวมใจศรัทธาของผู้คน โดยมีพิพิธภัณฑ์และมณฑปรูปเหมือนท่าน ดึงดูดผู้คนมาสักการะ
ประเพณีกราบไหว้รูปเหมือนหลวงพ่อเดิมจะมีขึ้นทุก ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี
🌟 สรุป
หลวงพ่อเดิม พุทธสโร เป็นหนึ่งในพระเกจิผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ศึกษาพระธรรมและวิชาพุทธาคมอย่างเข้มข้น สั่งสมบารมีจนได้รับการยกย่องเป็น “เทพเจ้าแห่งเมืองสี่แคว” ด้วยปฏิปทาแห่งศริธาธรรม ความเป็นพระนักพัฒนา และวัตถุมงคลอันทรงคุณค่า 😊
จากเรื่องราวของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ หนึ่งในเรื่องเล่าที่โดดเด่นและเป็นที่กล่าวขวัญถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่านคือ **"น้ำอาบศพศักดิ์สิทธิ์"** ครับ เรื่องเล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเมตตาและพลังจิตของหลวงพ่อเดิมที่สามารถช่วยให้ผู้ที่ถึงแก่ความตายแล้วฟื้นคืนสติได้
**เรื่องเล่า "น้ำอาบศพศักดิ์สิทธิ์" มีใจความสำคัญดังนี้:**
เรื่องเล่านี้เกิดขึ้นกับชาวบ้านคนหนึ่งที่ถึงแก่กรรมแล้ว โดยญาติพี่น้องได้เตรียมพิธีศพและกำลังจะอาบน้ำศพ แต่ในขณะนั้น หลวงพ่อเดิมซึ่งเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน ได้มาถึงที่บ้านงานศพพอดี เมื่อท่านทราบเรื่อง จึงได้ขอให้ญาติโยมรอสักครู่ แล้วท่านก็ได้ทำพิธีบางอย่าง โดยการ เอาน้ำมนต์หรือน้ำที่ท่านปลุกเสก ประพรมไปทั่วร่างของศพ หรือบางเรื่องเล่าก็ระบุว่า หลวงพ่อเดิมท่านได้ทำน้ำมนต์ และเอาไปอาบศพนั้น
หลังจากที่หลวงพ่อเดิมได้ประพรมน้ำหรืออาบน้ำนั้นแล้ว สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นคือ ร่างของคนที่ตายไปแล้วนั้นเกิดอาการกระตุก หรือบางครั้งก็ฟื้นขึ้นมาได้สติและสามารถพูดคุยกับญาติพี่น้องได้อีกครั้งหนึ่ง
**รายละเอียดและที่มาของเรื่องเล่า:**
* **ความเชื่อในพลังจิตของหลวงพ่อเดิม: เรื่องนี้เป็นที่เล่าขานกันมานานจากคนรุ่นสู่รุ่น สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาอย่างแรงกล้าในพลังจิตและวิทยาคมของหลวงพ่อเดิมที่ชาวบ้านเชื่อว่าสามารถชุบชีวิตคนตายได้
* **เมตตาธรรมของหลวงพ่อ: เรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเมตตาของหลวงพ่อเดิม ที่ไม่ละทิ้งผู้ที่กำลังจะจากไป และยังคงช่วยเหลือแม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต
* **น้ำมนต์และพลังอาคม: น้ำมนต์ที่หลวงพ่อเดิมปลุกเสกถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณและพลังอาคมของท่าน
* **การถ่ายทอดเรื่องราว: เรื่องเล่านี้ถูกบันทึกไว้ในหนังสือชีวประวัติของหลวงพ่อเดิมหลายเล่ม และเป็นที่เล่าขานกันในหมู่ลูกศิษย์และผู้ศรัทธา
**ข้อควรพิจารณา:**
เรื่อง "น้ำอาบศพศักดิ์สิทธิ์" นี้เป็นเรื่องเล่าที่อยู่ในวิสัยของศรัทธาและความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งยากที่จะพิสูจน์ได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความยิ่งใหญ่และบารมีให้กับหลวงพ่อเดิม ทำให้ท่านเป็นที่เคารพและศรัทธาอย่างสูงมาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อในปาฏิหาริย์และพลังเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ด้วยอำนาจแห่งบุญบารมีและพลังจิตอันบริสุทธิ์ของพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงศีล
โดยสรุปแล้ว เรื่องเล่า "น้ำอาบศพศักดิ์สิทธิ์" ของหลวงพ่อเดิม เป็นสัญลักษณ์ของความเมตตา พลังจิต และความศักดิ์สิทธิ์ของท่านที่ได้รับการยอมรับและศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนมาอย่างยาวนานครับ